วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

[iOS] Facebook อัปเดตใหม่ แชร์ทีละหลายๆ รูปได้แล้ว

ฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชั่น 5.1
  • swipe ไปทางซ้าย เพื่อส่งข้อความหาเพื่อนได้ง่ายขึ้น
  • เลือกเพื่อนที่ชอบส่งข้อความหาบ่อยๆ มาเป็น favorites ได้
  • แชร์ภาพหลายภาพได้แล้ว (ใส่ฟิลเตอร์ได้ด้วย)
  • ส่ง Facebook Gifts ได้แล้ว (เฉพาะในอเมริกา)
  • ตอนส่งข้อความก็จะเห็นได้ว่าใครกำลัง active อ่านข้อความเราอยู่ จะได้เลือกโต้ตอบกับคนที่ยังออนไลน์ได้
 

ใครยังไม่ได้อัพเดตตามลิงค์นี้เลย
ขอขอบคุณ

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ถ่ายภาพแบบพาโนรามาใน iOS 6

iOS 6 ได้เพิ่มความสามารถเกี่ยวกับการถ่ายรูปให้กับ iPhone 4S และ iPhone 5 มาด้วยซึ่งก็คือการถ่ายภาพแบบ ‘พาโนรามา’ (Panorama) เลยถือโอกาสนี้ทดสอบและถ่ายวิดีโอเพื่อให้ทุกคนเห็นไปพร้อม ๆ กันว่าการถ่ายภาพแบบพาโนราม่าใน iPhone 4S ที่ใช้ iOS 6 เป็นอย่างไร
สำหรบการถ่ายภาพแบบพาโนรามาเมื่อเข้าไปในกล้องถ่ายรูปแล้วก็เลือกกดจาก ปุ่ม Option จะมีเมนูให้เลือกถ่ายภาพแบบพาโนรามาปรากฏขึ้นมา โดยเมื่อเราเลือกถ่ายอันดับแรกเลยต้องถือกล้องในแนวตั้ง ส่วนตัวเราเองหลัก ๆ ก็ให้ยืนในท่าที่หมุนตัวได้สะดวกเพราะเวลาถ่ายภาพแบบพาโนรามาเราจะแพนกล้อง จากซ้ายไปขวาที่จะมีจังหวะการเอี้ยวตัวด้วย จัดระเบียบร่างการเสร็จก็จัดการกดถ่ายได้เลย


สำหรับภาพแบบพาโนรามาที่ถ่ายจาก iPhone 4S ขนาดไฟล์ใหญ่มากทีเดียว แม้จะถ่ายเพียงแค่เพียงช่วงสั้น ๆ ก็ตาม ถ้าดูจากวิดีโอด้านล่างภาพขนาดจริงที่ถ่ายในได้ตอนนั้นมีขนาด 7376 x 2332 พิกเซล (17.2 ล้านพิกเซล) โดยขนาดไฟล์ใหญ่มากถึง 11.5 MB


ทั้งนี้ขนาดไฟล์ใหญ่สุดที่ถ่ายภาพแบบพาโนรามาเท่าที่ผมได้ทดลองบน iPhone 4S ผมถ่ายได้ที่ขนาด 10768 x 2348 พิกเซล (25.2 ล้านพิกเซล) ส่วนขนาดไฟล์ก็มโหฬารถึง 16.9 MB


ถือว่าเป็นข้อมูลที่นำมาให้ได้ทราบกันก่อนจะได้เจอของจริง เพราะเชื่อว่าหลายคนคงอาจนึกไม่ถึงว่าถ่ายภาพพาโนรามาแบบนี้จะกินเนื้อที่ เยอะมาก ตรงนี้ก็ให้เป็นจุดสังเกตในอนาคตถ้าเกิดว่า iPhone 4S หรือ iPhone 5 หรือ iPod touch (5th Gen) ที่เราใช้งานความจุเต็มแน่นเครื่องแล้วก็ลองดูว่าเราถ่ายภาพแบบพา โนรามาไว้เยอะรึเปล่า

#ความสามารถถ่ายภาพแบบพาโนราม่ามีเฉพาะเครื่องดังต่อไปนี้
  • iPhone 5
  • iPhone 4S
  • iPod touch (5th Gen)

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

[iOS] [How To] มาทำให้ App ที่ไม่สามารถลบทิ้งได้ ออกไปจากเครื่อง iPhone

หลายๆท่านคงมีคำถาม ทำไม Newsstand App, Reminders App, Contacts App ถึงลบไม่ได้ วันนี้พี่แมงมุมขอเสนอ Rag3Hack ตัวช่วยที่จะทำให้ Stock App หรือ App พื้นฐานที่ไม่สามารถลบทิ้งได้ ให้หายไปจากเครื่อง iPhone/iPad/iPod ของคุณ โดยไม่ต้องพึ่ง Jailbreak
Rag3Hack
หลายๆท่านคงมีคำถาม ทำไม Newsstand App, Reminders App, Contacts App ถึงลบไม่ได้ วันนี้พี่แมงมุมขอเสนอ Rag3Hack ตัวช่วยที่จะทำให้ Stock App หรือ App พื้นฐานที่ไม่สามารถลบทิ้งได้ ให้หายไปจากเครื่อง iPhone/iPad/iPod ของคุณ โดยไม่ต้องพึ่ง Jailbreak ใช้ได้กับทุก Firmware นะครับ

Rag3HackRag3Hack
วิธีใช้งานก็ไม่ยาก ขนาดลูกชายพี่แมงมุมยังทำได้เลย เพียงแค่เข้าไปที่ http://rag3hack.no-ip.org/
แล้วเลือก Hide Apps without Jailbreak
Rag3Hack
พี่แมงมุมมีรูปตัวอย่าง Stock App หรือ App พื้นฐานที่สามารถซ่อนให้หายไปจากเครื่อง iPhone ของคุณได้
Rag3HackRag3Hack
อยากให้ App ไหนหายไปจาก iPhone ก็กดไปเลยครับ แล้วเลือก Install พี่แมงมุมจะใช้ Newsstand App เป็นตัวอย่างนะ อ้อลืมบอกไป ทุกขั้นตอนต้องเชื่อมต่อ Internet ไว้นะครับ ^_^!!
Rag3HackRag3Hack
ให้ออกมาที่หน้า Home ตรง App ที่เราจะทำการซ่อนหลังจากกด Install เมื่อกี้ มันจะต้องขึ้นแถบ Download และเป็นสีเทา หลังจากนั้นจะมีคำถามขึ้นมาให้เลือก Done
Rag3HackRag3Hack
ให้กดลบ Newsstand App ไปเลยครับ ถ้าเกิดมันไม่หายให้กดลบอีกครั้ง
คำถาม : ใครลบ App ในเครื่อง iPhone ไม่เป็นบ้าง (ให้ไปกดค้างที่ App จนขึ้นเครื่องหมาย กากบาท แล้วกดที่กากบาท)
Rag3Hack
เพียงเท่านี้ App ที่สร้างความเกะกะให้กับเครื่อง iPhone ของคุณก็จะถูกซ่อนไว้เรียบร้อย สงสัยใช่มั้ยว่ามันถูกซ่อนไว้ที่ไหน ทาง Server ของ Rag3Hack จะเป็นตัวเก็บ App ไว้ให้เรา แต่ถ้าต้องการ App กลับคืนมาต้องทำยังไง แค่ Reboot เครื่อง iPhone หรือปิดเปิดเครื่อง ทุก App ที่ถูกซ่อนไว้ก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนะครับ
ขอขอบคุณ
http://www.darkzphone.com/

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

FAQ ปัญหาที่พบหลังอัปเดต iOS 6 พร้อมวิธีการแก้ไข

นั่งดูคำถามใน facebook page พบว่าหลายคนเจอปัญหาหลังการอัปเดต iOS 6 ซึ่งเมื่อดูดีๆ แล้วก็พบอยู่ไม่กี่ปัญหา ทีมงานขออณุญาตรวบรวมปัญหาเหล่านี้เอาไว้ พร้อมกับเสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเพื่อให้ทุกท่านได้นำไปทดสอบดู ครับ หลายท่านทำแล้วหลายส่วนหลายท่านที่ทำไม่ถูกวิธีอาจจะไม่หาย

  

ปัญหาหลังอัปเดต iOS 6 เท่าที่ได้รับการสอบถามมา

1. WiFi และระบบเครือข่ายอื่นๆ ใช้งานไม่ได้หรือว่าได้บ้างไม่ได้บ้าง

  • Reset network settings โดยไปที่ Settings> General> Reset> Reset network setting
  • ลองทำ Hard Reset ถ้ายังไม่หายให้ไปข้อสุดท้าย
  • ทำตามวิธีที่ 3 ของบทความนี้ http://www.iphonemod.net/how-to-update-ios-6-0-official-unlocked.html แล้วเลือก Set Up as new iPhone    

2. หลังจากอัพเดท iOS 6 มาแล้ว lock screen ไม่ยอมทำงานอัตโนมัติ ต้องกดล็อคเอง

  • Reset all settings โดยไปที่ Settings> General> Reset> Reset all settings (ข้อมูลไม่หายครับไม่ต้องกลัว)
  • ลองทำ Hard Reset ถ้ายังไม่หายให้ไปข้อต่อไป
  • ทำตามวิธีที่ 3 ของบทความนี้ http://www.iphonemod.net/how-to-update-ios-6-0-official-unlocked.html แล้วเลือก Set Up as new iPhone

3.  อัป iOS 6 แล้วแต่ไม่อยากได้คีบอร์ด 4 แถว

อันนี้ช่วยไม่ได้ครับเพราะมันเป็น original ที่ Apple กำหนดมา ทางเดียวที่ทำได้คือ Downgrade ลงไป iOS 5.1.1

4. iPhone 3gs ตั้งแต่ ios 5.1.1 แบตลดไวมากอะครับ เปิดสแตนบายไว้แบตยังลดฮวบเลย อัป 6.0 ลดเร็วกว่าเดิมอีกทั้งที่แบตไม่เสื่อม

ซอฟแวร์บางตัวอาจทำให้มีปัญหาครับ
  • ลองลบตัวที่ไม่จำเป็นออก
  • หาแอปเกี่ยวกับ battery มาใช้งานเช่น Battery Doctor
  • ถ้าไม่หายก็ลอง ทำตามวิธีที่ 3 ของบทความนี้ http://www.iphonemod.net/how-to-update-ios-6-0-official-unlocked.html แล้วเลือก Set Up as new iPhone
  • ถ้าไม่หายอีกก็คงเป็นที่อุปกรณ์ของคุณแล้วแหละ หาซื้อแบตสำรองใช้ได้เลย

5. อัปเดต iOS 6 แล้ว Facbook เซฟรูปไม่ได้

อ่านที่บทความนี้ การตั้งค่า Privacy ฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ใน iOS 6 ดูหัวข้อที่ 5 เรื่อง Photos

6. รายชื่อใน Facebook มันมาปนกับรายชื่อของ iCloud

อ่านที่บทความนี้ การตั้งค่า Privacy ฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ใน iOS 6 ดูหัวข้อที่ 8 เรื่อง Facebook

7. อัพเดทไอโอเอส 6 กับ ไอโฟน 4s ไอโอเอส 5.1.1 มันติด Recovery mode ตลอดเลย ใช้โปแกมไหนเตะก็ไม่ออก

ทำเป็นขั้นตอนตามนี้เลย
  1. ปิดเครื่องก่อนโดยกด Home+Power ให้ดับ
  2. เข้า DFU mode
  3. ดาวน์โหลด IPSW ของเครื่องที่เราต้องการจะอัปเดตมาให้ตรง ดาน์โหลดได้ที่ ดาวน์โหลด iOS 6 ไฟล์ IPSW [ลิงก์ตรงโหลดแรง]
  4. ทำตามวิธีที่ 3 ของบทความนี้ http://www.iphonemod.net/how-to-update-ios-6-0-official-unlocked.html แล้วเลือก Set Up as new iPhone

8. อัปแล้วแอปฯ ชอบเด้ง เข้าไม่ได้ โหลดลงใหม่ก็ไม่หาย

ส่วนใหญ่ผมคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาจากการอัปเดตแบบ OTA (Over The Air) หรือการอัปเดตผ่าน iTunes ดังนั้นทางเดียวที่จะแนะนำได้คือ ทำตามวิธีที่ 3 ของบทความนี้ http://www.iphonemod.net/how-to-update-ios-6-0-official-unlocked.html แล้วเลือก Set Up as new iPhone 

9.  อัป iOS 6 แล้วโปรแกรม YoutTube หาย

มันถูกต้องแล้วครับเพราะทาง Apple ตัดออกไปแล้ว หากอยากได้ก็ดาวน์โหลดได้ที่ App Store

10. อัพเดตเป็น ios6 แล้วค้าง หน้จอขึ้นรูป USB กับ iTune อ่ะค่ะ  ทำไงดีคะ?

อันนี้เรียกว่า Recovery Mode นะครับ แก้ไขโดยใช้โปรแกรมเสริมครับ

11. Facebook อยู่ดีๆ ก็ไม่มีเสียงเตือนค่ะ ไม่รู้เป็นไร แนะนำวิธีแก้หน่อยค่ะ

ถามกันมาเยอะมากๆ เรื่อง facebook ไม่เตือน เครื่องผมไม่ได้ทำอะไรมันก็ไม่เตือนครับ สรุปได้ก็คือมันเป็นที่ระบบของ facebook ครับ จะแก้ไขก็ต้องรอทาง facebook แหละครับ

12. อยากได้วิธีดาวเกรด ของ ios6 เป็น 5.1.1 หน่อยคับ มี ssh แล้ว ตัว 5.1.1 ก็พร้อมแล้วคับ

13. อัพเวอร์ชั่น ios 6 แล้ว วอทแอปไม่โชว์รูปของเพื่อนเลย

อย่างแรกลอง ตั้งค่าใน Whatsapp ก่อน เข้า Setting >> Pirvacy>>Contact >>Whatsapp>>ON
ถ้าไม่หาย ลองเปลี่ยนรูป และลองให้เพื่อนเปลี่ยนรูปด้วยอ่ะ ทักกันใหม่เดี๋ยวก็หายเองแหละ ขอบคุณ

14.  อัพ ios6 แล้ว ทำไมเช็คอินในเฟสไม่ได้ เรื่องบอกให้เปิดบริการตำแหน่งที่ตั้งไม่ได้

ทำ Hard reset ก่อน จากนั้นก็ไปตั้งในของ Privacy  การตั้งค่า Privacy ฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ใน iOS 6 ดูหัวข้อ 1 เรื่อง Location service

ขอขอบคุณ

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

iOS 6 มีอะไรปรับปรุงมีอะไรใหม่

เปิดให้ดาวน์โหลดกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ iOS 6 ที่แอปเปิ้ลใส่ความสามารถใหม่เข้ามาเพียบ ลองมาไล่เรียงกันดูว่า iOS 6 มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
สำหรับ iOS 6 ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงจาก iOS 5 พอสมควรหลายอย่างเป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 6 ก็ถือว่ามีเยอะพอสมควร ลองไล่เรียงกันเป็นอย่าง ๆ ไปก็แล้วกัน
  • เครื่องที่สามารถอัพเดท iOS 6 ได้

  1. iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4S
  2. iPad 2 และ iPad (3rd Gen)
  3. iPod touch (4th Gen)

  • ระบบโดยรวม – Settings ต่างๆ

หน้าตาในส่วน Settings มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างและมีการปรับปรุงนำเมนู Bluetooth ที่เคยซ้อนอยู่หลายชั้นกว่าจะเข้าไปกดได้ก็นำออกมาไว้ในหน้าแรกของ Settings เลย นอกจากนี้ก็มีการเพิ่มเมนูใหม่เข้ามาคือ Do Not Disturb และ Privacy

 


Do Not Disturb เป็นการตั้งค่าช่วงเวลาที่จะทำให้อุปกรณ์ของเราไม่ส่งเสียงรบกวนโดยไม่จำ เป็นต้องหยิบเครื่องขึ้นมาปรับ iPhone เข้าไปเป็น Silent Mode แต่อย่างใด การเปิดใช้งาน Do Not Disturb เช่นในช่วงเวลา 23.00 – 07.00 น. เวลามีข้อความหรือการเตือนจากแอพฯก็ยังเข้ามาที่เครื่องเราปกติ แต่จะไม่มีเสียงมากวน ส่วนใครที่กลัวว่าตั้งค่าเปิดใช้ Do Not Disturb แบบนี้โทรศัพท์เข้ามาก็ไม่ดังด้วยซิ ก็ใช่ครับ แต่ในเมนูของ Do Not Disturb จะมีให้ตั้งค่าเพิ่มเติมว่าถ้าเป็นโทรศัพท์จากไหนถึงจะให้เป็นสายโทรศัพท์ ที่มีเสียงดังขึ้นมาได้บ้าง เช่นจาก Favorite, จากลุ่มแยกย่อยในหมายเลขโทรศัพท์ของเรา หรือถ้าไม่รู้ว่าเบอร์ไหนจะโทรมาด่วนแค่ไหนก็ยังสามารถตั้งค่าให้ทุกสายที่ โทรเข้ามาส่งเสียงได้เหมือนเดิม


 


Privacy สำหรับฟีเจอร์นี้จะเป็นการอนุญาตให้แอพฯต่าง ๆ สามารถเข้าถึงในเครื่องได้หรือไม่ เช่นหลายแอพฯจะต้องมีการเข้าถึงรูปภาพใน Photo Library เมื่อเปิดแอพฯนั้น ๆ เป็นครั้งแรกบน iOS 6 ก็จะมีการถามว่าคุณจะอนุญาตให้แอพฯนี้เข้าถึง Photo Library หรือไม่ เป็นต้น ซึ่ง Privacy ก็จะช่วยป้องกันการเข้าถึง Contacts, Photo Library, Calendars, Reminders จากแอพฯต่าง ๆ ที่ก่อนหน้านี้จะเข้าได้ถึงได้อัตมัติ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเราต้องเป็นคนกดอนุญาตก่อนแอพฯเหล่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ เข้าไปรู้ข้อมูลเราได้



  • FaceTime ผ่าน 3G



ถือเป็นเรื่องที่รอลุ้นกันมาตั้งแต่ตอน iOS 5 ที่ตอนนั้นก็นึกว่าแอปเปิ้ลจะเปิด แต่สุดท้ายก็ต้องรอกันมาถึง iOS 6 โดยการใช้งาน FaceTime ผ่าน 3G ในไทย เท่าที่ได้ทดลองขอความเร็วอินเตอร์เน็ตสัก 1.5Mbps/512Kbps ก็พอใช้งานได้แล้ว แต่ความคมชัดอาจจะไม่เยอะมากนัก แต่ถ้า 3G ในขณะที่เราใช้งานเร็วขึ้นมาอีกภาพที่ได้ก็จะชัดมากขึ้น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเร็วอินเตอร์เน็ตของคู่สนทนาด้วย
โดยการใช้งาน FaceTime ผ่าน 3G เวลาประมาณ 1 นาทีจะมีการรับส่งข้อมูลราว ๆ 3MB


  • UI ในส่วนของโทรศัพท์ แก้ไขเรื่องเบอร์โทรขึ้นต้น 09x


ซ้าย : iOS 5.1.1 / ขวา : iOS 6.0

ในส่วนของ Phone มีการปรับปรุงเรื่องสีสันใหม่จากเดิมที่จะเป็นโทนสีดำน้ำเงินเข้มใน iOS 6 ได้เปลี่ยนมาเป็นโทนขาวฟ้าแทน ส่วนเบอร์โทรศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย 09x ที่ก่อนหน้านี้ใน iOS 5 จะติดกันเป็นพืดเวลากดเบอร์โทรกลุ่มนี้ พอมาใน iOS ได้แก้ไขให้ตัวเลขเป็น 09x-xxx-xxxx แล้ว ซึ่งก็ช่วยเรื่องว่าตอนกดเบอร์แล้วจะได้ไม่งงเพราะตัวเลขติดกันเป็นพืดอีก ต่อไป

  • รวมระบบเข้ากับ FaceBook รายชื่อ, ปฏิทิน



iOS 6 ได้เพิ่มความสามารถรวมระบบเข้ากับ Facebook โดยสิ่งที่สามารถเชื่อมกันได้คือ ปฏิทิน, เบอร์ โทรศัพท์ ซึ่งเมื่อทำการเชื่อมกันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่องเรา (ตรงนี้ให้ระวังกันด้วยนะครับถ้าจะเปิดใช้งาน) นอกจากนั้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Facebook คือสามารถโพสข้อความ Status ของเราได้จากแถบ Notification ในเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องเข้าไปในแอพฯ Facebook

  • เพิ่มการถ่ายภาพแบบพาโนรามา (เฉพาะ iPhone 4S) 



iOS 6 ได้เพิ่มความสามารถเกี่ยวกับการถ่ายรูปแบบพาโนรามาให้กับ iPhone 4S  ซึ่งฟีเจอร์นี้เราเคยรีวิวให้ดูกันไปแล้ว ยังไงลองคลิกเข้าไปอ่านของเดิมกันดูนะครับ


  •  แผนที่เปลี่ยนใหม่



ระบบแผนที่ใน iOS 6 แอปเปิ้ลได้เลิกใช้ระบบ Google Maps ไปแล้ว โดยหันมาพัฒนาระบบแผนที่เอง ซึ่งตัวแผนที่ใช้ระบบของ TomTom ผู้ผลิตอุปกรณ์ GPS ชื่อดัง โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถสู้กับ Google Maps ที่ทำมาหลายปีแล้วได้ สิ่งที่จะขาดหายไปคือแสดงเกี่ยวกับการจราจรในกรุงเทพ (Traffic) และภาพแบบ Street View ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ Google

ทั้งนี้แผนที่ใน iOS 6 ถ้าดูจากเว็บแอปเปิ้ลที่มีทั้งแผนที่แบบ 3D, สามารถใช้นำทางแบบ Turn by Turn ได้เหมือน GPS พวกนี้ยังไม่สามารถใช้งานในไทยได้ครับ โดยแผนที่ใน iOS 6 กับประเทศไทยสามารถใช้งานได้แค่เรื่องพื้นฐานเท่านั้น เช่นการค้นหาสถานที่ต่าง ๆ
  
  • iTunes Store และ App Store โฉมใหม่

หน้าตา iTunes Store บน iPad

สำหรับ iTunes Store และ App Store มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาใหม่ การใช้งานเราต้องทำความคุ้นเคยกันใหม่เล็กน้อย เช่นการพรีวิวฟังเพลงที่ก่อนหน้านี้เวลาเรากดฟังแล้วก็ต้องอยู่หน้านั้นตลอด จนกว่าเพลงนั้นจะจบ พอเป็น iTunes Store โฉมใน iOS 6 มีการปรับใหม่ให้สามารถฟังได้ตลอดแม้ว่าเราจะกดเปลี่ยนหน้าไปมาหรือแม้ กระทั่งการกดออกมาจาก iTunes Store แล้วเพลงที่เรากดฟังก็ยังเล่นอยู่ จนกว่าเพลงนั้นจะจบเองหรือเราเป็นคนกดหยุดเพลงเอง


App Store ก็มีการปรับปรุงโฉมด้วยเช่นกัน โดยหน้าตาตอนพรีวิวแอพฯจะเปลี่ยนไป และเวลาค้นหาก็จะมีการแสดงแอพฯขึ้นมาในรูปแบบใหม่ด้วย และจากเดิมที่เวลากดดาวน์โหลดแอพฯแค่แอพเดียวก็เด้ง ออกมาหน้าจอหลักแล้ว ซึ่งหลายคนยังกดซื้อกดดาวน์โหลดแอพฯที่ต้องการไม่ครบเสียเวลาเข้าไป โหลดทีละ แอพ ตอนนี้ใน iOS 6 เวลากดดาวน์โหลดแอพฯจะไม่เด้งกลับหน้าหลัก แต่จะแสดงสถานะแถบดาวน์โหลดสีฟ้า ๆ ตรงหน้านั้นใหเราได้รู้เลย ส่วนถ้าดาวน์โหลดแอพฯมาเยอะกลัวงงว่าแอพฯไหนเราเพิ่งดาวน์โหลดมาใหม่ก็ไม่ ต้องกังวล เพราะใน iOS 6 แอพฯไหนที่เพิ่งถูกดาวน์โหลดมาใหม่จะมีแถบคาดไว้ว่า New ให้ได้เห็น

ซ้าย : การแชร์ข้อมูลจาก App Store และ iTunes Store ทำได้ง่ายขึ้น 
ขวา : หน้าตาตอนอัพเดทแอพต่าง ๆ ใน iOS 6

 ส่วนอื่น ๆ ใน iTunes Store และ App Store ที่เพิ่งมีเข้ามาถือสามารถกดแชร์ลิงค์เพลงที่เราสนใจหรือแอพที่เราชอบไปยัง Twitter , Facebook เพื่อให้เพื่อนรู้ได้ง่ายขึ้นด้วย

  •  ตัดแอพฯ YouTube

สำหรับ Youtube ก็เป็นแอพฯที่ถูกแอปเปิ้ลถอดออกพร้อม ๆ กับแผนที่ โดยตอนนี้เครื่องที่ใช้ iOS 6 สามาถเข้าไปดาวน์โหลดแอพฯ YouTube ที่ Google เพิ่งปล่อยออกมาเองเมื่ออาทิตย์ก่อนมาติดตั้งในเครื่อง ซึ่งตรงจุดนี้ก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิม แถมตัวแอพฯ YouTube ที่ Google ทำออกมาให้ใช้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย 


  • Passbook

สำหรับ Passbook ถือเป็นแอพฯที่มีข้อมูลน้อยที่สุดในบรรดาสิ่งที่ปรับปรุงและเพิ่มเข้ามาใหม่ ใน iOS 6 โดยแอพฯ Passbook จะเป็นแอพฯที่เกี่ยวข้องกับเรื่องตั๋ว, คูปองส่วนลด แนว ๆ นี้ เช่นร้านค้าแจกบัตรส่วนลดในการซื้อของ Passbook หรืออย่างสายการบินทำระบบเวลาเราจะเข้าไปเช็คอินให้ผูกกับ Passbook ซึ่งบนหน้าจอก็จะมีเป็น Boarding Pass ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ ซึ่งถ้าสายการบินหรือสนามบินไหนสามารถใช้งาน Passbook ได้เต็มระบบก็จะสามารถบอกทั้งเวลาแบบเรียลไทม์ว่าเครื่องจะออกกี่มองและทิศ ทางของที่เราจะต้องเดินไปขึ้นเครื่องได้ด้วย


ทั้งนี้ในไทยมีสายการบิน Nok Air ได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะรองรับการใช้งานระบบ Passbook ในเร็ว ๆ นี้ซึ่งก็ต้องต้องมาดูกันว่า Nok Air จะลงทุนทำเต็มระบบของ Passbook หรือไม่

โดยระบบต่าง ๆ ของ Passbook จะอิงการอ่านบาร์โค้ดในรูปแบบต่าง ๆ  ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่าจะมีบริษัทห้างร้านทั้งเล็กทั้งใหญ่ในไทยสนใจจะทำ อะไรเกี่ยวกับ Passbook บ้างหรือไม่

  • Safari ปรับปรุงใหม่

สำหรับ Safari ใน iOS 6 ถือเป็นสิ่งที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นหลายอย่างเลยครับ โดยใน iPhone เวลาเราเล่นเว็บในแนวนอนจะมีปุ่มปุ่มลูกศรอยู่มุมล่างขวาปรากฏขึ้นมา ซึ่งปุ่มนี้คือการแสดงผลหน้าเว็บแบบเต็มจอโดยที่ไม่มีเมนูต่าง ๆ มาบังด้านบนและด้านล่าง


เพิ่ม iCloud Tabs ที่สามารถซิงค์ข้อมูลหน้าเว็บที่เราเปิดอยู่บน Safari ใน iOS 6 หรือหน้าเว็บที่เปิดบน Safari 6.0 ใน OS X 10.8 เข้าหากันได้ เช่นบนเครื่อง Mac เราเปิดดูเว็บค้างไว้ พอจะออกนอกบ้านจากเดิมที่เราอาจจะต้องตั้งค่าให้หน้าเว็บนั้นเป็น Bookmark ไว้ ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าไม่ต้องทำอะไรรอให้ข้อมูลซิงค์หากันแล้วเราก็ไปเลือก เปิดหน้าเว็บที่เราอ่านค้างไว้จากเมนู iCloud Tab บน iPhone หรือ iPad ได้เลย ทั้งนี้การจะทำแบบนี้ได้คุณผู้อ่านต้องใช้บริการ iCloud ด้วยนะครับ


อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่กว่าจะทำได้ก็มาแล้วครับ นั้นคือความสามารถในการอัพโหลดรูปภาพจาก Safari ได้เลยทันที โดยการอัพโหลดรูปภาพเข้าไปในเว็บต่าง ๆ ก่อนหน้านี้เราไม่สามารถทำได้จาก Safari  แต่ตอนนี้ใน iOS 6 เวลาเราเข้าเว็บบอร์ดแล้วกำลังพิมพ์ตอบกระทู้อย่างเมามันอยากจะเพิ่มรูปแทรก เข้าไปด้วยก็สามารถกดอัพโหลดรูปได้เลยจาก Safari หรือเว็บไซท์ฝากรูปเจ้าประจำก็สามารถกดอัพโหลดรูปจาก Safari ได้เลยเช่นกัน

  • Siri



แม้ Siri จะมีการอัพเดทให้รองรับภาษาต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น รายงานผลกีฬาดัง ๆ ได้ แต่ก็ยังไม่มีภาษาไทยและยังไม่รู้จักประเทศไทยอยู่ดี เลยดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไหร่ ส่วนอื่น ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาใน Siri ก็อย่างเช่นสั่งให้เปิดแอพฯต่าง ๆ ในเครื่อง สั่งให้ทวีตข้อความ สั่งให้อัพเดทสเตตัสใน facebook ส่วนเรื่องง่าย ๆ อย่างสั่งให้เปิด-ปิด Bluetooth หรือ Wi-Fi ยังทำไม่ได้

แต่ส่วนที่เป็นข่าวดีก็มีเหมือนกันเพราะ  Siri สามารถใช้งานบน iPad (3rd Gen) ได้ด้วย โดย Siri ใน iOS 6 รองรับภาษาใหม่ ๆ เข้ามาด้วยเช่นภาษาจีน, ภาษาสเปน และภาษาเกาหลี

  • คียบอร์ดไทย 4 แถวบน iPhone

เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมากที่สุดตั้งแต่ออก iOS 6 beta ว่าการปรับคีย์บอร์ดภาษาไทยจากเดิม 3 แถวเป็น 4 แถวเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี แต่กระนั้นใครอัพ iOS 6 ก็ไม่มีทางเลือกกลับไปใช้คีย์บอร์ดแบบ 3  แถวแล้วนะครับ เพราะ iOS 6 มีให้เลือกแค่คีย์บอร์ด 4 แถวเพียงอย่างเดียว

 

เท่าที่ได้ใช้มาในช่วงที่เป็น iOS 6 beta จนถึงปัจจุบันที่ไม่ชอบในคียบอร์ด 4 แถวคงเป็นแค่เรื่องปุ่มแต่ละตัวอักษรหดเล็กลงไปจากเดิมเล็กน้อยเพื่อให้ สามารถวางปุ่มตัวอักษรต่าง ๆ ได้เหมือนแป้นพิมพ์ปกติที่สุด ตรงจุดนี้ถ้าเป็นคนที่นิ้วใหญ่ก็คงมีกดพลาดกันบ้าง ข้อดีของคีย์บอร์ดไทยแบบ 4 แถวคือถ้าเป็นคนที่คุ้นกับการพิมพ์สัมผัสก็จะสามารถมองหาปุ่มต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
ส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคีย์บอร์ดไทยบน iPad ก็ได้เพิ่มให้สามารถแยกคีย์บอดซ้ายขวาในขณะอยู่ในโหมดคีย์บอร์ดภาษาไทยได้ เลย โดยไม่ต้องสลับไปภาษาอังกฤษแล้วค่อยแยกแล้วก็ค่อยเปลี่ยนมาเป็นคีย์บอร์ด ภาษาไทย ใครที่ใช้ใช้คีย์บอร์ดแบบแยกข้างซ้าย-ขวาบ่อย ๆ คงชอบ


นอกจากนี้ใน iOS 6 ไอคอน Emoji ได้เพิ่มแบบเข้ามาให้เลือกอีกมากมายนับรวม ๆ มีประมาณ 500 แบบเห็นจะได้


  • Share Photo Stream

เป็นฟีเจอร์ที่ต่อยอดจาก Photo Stream ที่หลายคนไม่ได้เปิดใช้เลย โดย Share Photo Stream หลัก ๆ ก็จะเป็นการแชร์รูปของเราให้เพื่อนดูผ่านทาง Photo Stream ซึ่งต้นทางและปลายทางก็ต้องเปิดใช้ iCloud และ Photo Stream ทั้งคู่

  • Mail – VIP Box

 

เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน Mail โดย VIP Box อธิบายแบบไม่ยาวมากคงประมาณว่าอีเมลไหนที่ที่มาจากคนสำคัญ ๆ เราก็จัดการติ๊กไว้ว่าถ้าเป็นอีเมลนี้เข้ามาให้เข้าไปรวมอยู่ใน VIP Box ทันที ก็ช่วยให้หาอีเมลนั้น ๆ ง่ายขึ้น

ขอขอบคุณ 

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 อันดับ เคล็ดลับถนอมแบตเตอรี่ iPhone และ iPad สำหรับ IOS 6

  • อันดับ 10

ปิดฟังก์ชัน diagnostic

อีกฟังก์ชันที่คาดว่ามีผลแง่ลบต่ออายุแบตเตอรี่ใน iOS 6 คือ Diagnostic & Usage data หรือการส่งข้อมูลการใช้งานดาต้าผ่านทางเครือข่ายไร้สาย ดังนั้นควรเลือกที่ Don't Send ที่เมนู Settings คลิกที่ General เลือก About ตามด้วย Diagnostics & Usage
  • อันดับ 9

ปิดการแจ้งเตือน Notifications

เป็นเรื่องที่ยอมรับกันทั่วไปว่าการแจ้งเตือนหรือ notification นั้นผลาญแบตเตอรี่มากเพียงใด โดยพื้นที่ notification Center ใน iOS นั้นทำให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมของกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนระบบได้ดี แต่ก็ต้องแลกกับอายุแบตเตอรี่ที่หมดลงรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ต้องตั้งค่าที่เมนู Settings เลือก Notifications ผู้ที่ไม่แคร์สิ่งใดอาจจะเลือกปิดการทำงานของ Notification Center ได้อย่างไม่รีรอ แต่สำหรับผู้ที่ยังติดเครือข่ายสังคมจะสามารถเลือกดูการเตือนของบางแอปพลิเค ชันเมื่อเครื่องถูกล็อคหน้าจอได้ โดยสามารถเลือก Alert Style ว่าต้องการให้ข้อความปรากฎที่พื้นที่ใดของจอภาพ ซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าการต้องเปิดหน้าจอทั้งหมด 
  • อันดับ 8

ปิดบริการอิงสถานที่ (location)

ใครคิดว่า iOS 5 มาพร้อมคุณสมบัติด้านบริการอิงสถานที่แล้ว iOS 6 นั้นมีคุณสมบัติมากกว่าอย่างชัดเจน ซึ่งแม้จะมีประโยชน์แต่คุณสมบัตินี้กลับเป็นผลแง่ลบต่ออายุแบตเตอรี่ของ อุปกรณ์ ปิดคุณสมบัตินี้ได้ที่เมนู Settings เลือก Privacy คลิกที่ Location Services จุดนี้ทุกคนสามารถเลือกเปิดการทำงานอิงสถานที่กับบางแอปพลิเคชันได้ตามต้อง การ ขณะเดียวกัน ผู้ใช้ iOS 6 ควรเลื่อนไปที่ด้านท้ายของหน้า Locations Services แล้วคลิกที่เมนู System Services จากนั้นให้ปิดการทำงานของฟังก์ชัน Location Based iAds และฟังก์ชัน Setting Time Zone ซึ่งเมื่อปิดแล้ว เวลาในเครื่องก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพราะเครื่องจะแสดงเวลาตามระบบของผู้ ให้บริการในท้องถิ่นอยู่แล้ว 
  • อันดับ 7

เปิดโหมดใช้งานบนเครื่องบิน Airplane Mode

นี่คือทางลัดในการปิดการเชื่อมต่อทุกเครือข่ายบน iPhone เพียงเปิดโหมด Airplane Mode ด้วยการเข้าเมนู Settings เลือก Airplane Mode ซึ่งเมื่อเครื่องอยู่ในโหมดนี้ ทุกคนจะสามารถเลือกเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi และ Bluetooth ได้หากต้องการ 
  • อันดับ 6

ปิดการเชื่อมต่อ

หลายบทความแนะนำให้ผู้ใช้ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth หรือ 3G ด้วยการคลิก off หรือปิด แต่สำหรับ Wi-Fi เราขอแนะนำให้คุณปิดการทำงานฟังก์ชัน Ask to Join Networks ซึ่งสามารถกดเปิดเมื่อต้องการค้นหา Wi-Fi เท่านั้น โดยฟังก์ชัน Ask to Join Networks จะมีอยู่ในเมนู Settings เลือกที่ Wi-Fi สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ สามารถตั้งค่าปิดการทำงานที่เมนู Settings เลือก General คลิก Cellular เช่นเดียวกับ Bluetooth (เลือกที่ Settings > Bluetooth) ซึ่งควรเลือกเปิดเมื่อต้องการใช้งานเท่านั้น
  • อันดับ 5

เปิดฟังก์ชันล็อคหน้าจออัตโนมัติ

ต้องบอกว่าหลายคนเห็นความแตกต่างของอายุแบตเตอรี่อย่าง ชัดเจนระหว่างอุปกรณ์ที่เปิดและไม่เปิดการล็อคหน้าจออัตโนมัติ การเปิดฟังก์ชันนี้จะทำให้หน้าจอเครื่องถูกพักการทำงานเมื่อไม่ได้เปิดใช้ ซึ่งทุกคนสามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการให้ปิดหน้าจอ 1 หรือ 2 นาทีหากพบว่าหน้าจอไม่มีการใช้งาน ซึ่งไม่เพียงจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์อื่นๆในเครื่องได้ด้วย วิธีการเปิดฟังก์ชันนี้ คือเลือกเมนู Settings คลิกที่ General และเปิดฟังก์ชัน Auto-Lock
  • อันดับ 4

อัปเดทแอปพลิเคชันในเครื่อง

หลายคนอาจไม่รู้ว่า การอัปเดทแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดมาในเครื่องก็เป็นวิธีช่วยยืดอายุ แบตเตอรี่เครื่องอย่างได้ผล เพราะแม้แอปพลิเคชันเดิมในเครื่องจะทำงานได้ดี แต่แอปพลิเคชันเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานกับระบบปฏิบัติการบางเวอร์ชัน ได้ดีที่สุด ดังนั้นเมื่อมีการอัปเดทระบบปฏิบัติการใหม่ จงอย่าลืมที่จะอัปเดทแอปพลิเคชันในเครื่องให้รองรับระบบปฏิบัติการใหม่ด้วย 
  • อันดับ 3

ปิดการทำงานแอปเบื้องหลัง

แม้จะเรียกแอปพลิเคชันใหม่ขึ้นมาใช้งาน แต่แอปพลิเคชันที่ถูกเปิดขึ้นมาใช่งานก่อนหน้านี้ยังทำงานอยู่ แอปพลิเคชันเหล่านี้จะถูกเรียกว่า background app หรือแอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งแม้ background app ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีผลต่อแบตเตอรี่เครื่อง แต่หากเป็นแอปพลิเคชันประเภท GPS สำหรับการนำทาง ก็สามารถสูบแบตเตอรี่จากเครื่องได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น iOS รุ่นใด คำแนะนำในข้อนี้จึงเน้นการปิด background apps ให้บ่อยครั้ง วิธีการคือการกดปุ่มโฮม (Home button) ติดกัน 2 ครั้งเพื่อเปิดแถบมัลติทาสกิ้งหรือ multitasking bar จากนั้นกดค้างไว้ที่รูปไอคอนแอปพลิเคชัน แล้วจึงเริ่มแตะที่เครื่องหมายลบซึ่งอยู่มุมบนขวาของไอคอนแอปพลิเคชันเหล่า นั้น
  • อันดับ 2

ปรับความสว่างหน้าจอ

นี่คือวิธีที่ง่ายที่สุดในการยืดอายุใช้งานแบตเตอรี่ ผู้ใช้ iPhone 4 ที่เคยอัปเดทจาก iOS 4 เป็น iOS 5 อาจจะเคยพบประสบการณ์ถูกเลื่อนความสว่างเป็นระดับขีดสุดมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นอีกเมื่ออัปเดทจาก iOS 5 เป็น iOS 6 ดังนั้นลองตรวจสอบระดับความสว่างหน้าจอของเครื่อง แล้วปรับลดลงหากมันสว่างเกินความจำเป็น โดยเข้าไปตั้งค่าที่เมนู Settings เลือกที่ Brightness & Wallpaper
  • อันดับ 1

ปรับทัศนคติ

Adrian Kingsley-Hughes แห่งคอลัมน์ Hardware 2.0 ของสำนักซีดีเน็ตบรรยายไว้ว่า เคล็ดข้อแรกที่เขาต้องการแนะนำชาว iPhone และ iPad ที่อัปเดทเป็น iOS6 คือการไม่ต้องทำอะไร หรือแปลอีกนัยหนึ่งคือ"เคล็ดลับคือไม่มีเคล็ดลับ" (tip is actually an anti-tip) นักเขียนหนุ่มรายนี้เชื่อว่า อายุแบตเตอรี่ของเครื่องที่อัปเดทระบบปฏิบัติการอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิด โดยตั้งข้อสังเกตว่าคนจำนวนมากอาจจะอคติและโยนบาปให้ iOS 6 ทั้งที่ความจริงแล้วภาวะแบตเตอรี่เครื่องหมดเร็วนั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ประกอบกัน ปัจจัยเหล่านั้นอาจได้แก่ การให้ความสนใจกับ iPhone หรือ iPad มากขึ้นหลังจากอัปเดทระบบปฏิบัติการใหม่, การทดลองใช้งานเครื่องอัปเดทใหม่มากกว่าเดิม หรือการลองใช้งานคุณสมบัติใหม่ เป็นต้น ตรงนี้นักข่าวของซีดีเน็ตชี้ว่า ผู้ใช้ iPhone และ iPad ทุกคนควรจะระลึกด้วยว่าอุปกรณ์ตระกูลไอของทุกคนนั้นมีอายุเกิน 1 ปีแล้ว ดังนั้นความสามารถของแบตเตอรี่ในเครื่องย่อมเสื่อมลง โดยเฉพาะอายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องที่มักจะสั้นลง 10% ตามปกติทุกปี แปลว่าผู้ใช้ iPhone 4 ซึ่งแอปเปิลเคลมว่ามีอายุสแตนด์บายต่อเนื่อง 300 ชั่วโมง ก็จะถูกลดลงเป็น 270 ชั่วโมงในปีแรก และเหลือ 240 ชั่วโมงในปีที่ 2 และเหลือ 220 ชั่วโมงในปีที่ 3 นี่เป็นธรรมชาติของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อุปกรณ์พกพาส่วนใหญ่ ใช้งาน ไม่ว่าเราจะต้องการหรือไม่ ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงกฎฟิสิกซ์นี้ไปได้

ขอขอบคุณ 
http://toptenthailand.com